เจาะ [size= 18.0pt; font-family: 'Tahoma',sans-serif]5 ประเด็น ลิเวอร์พูล บุกทุบ สเปอร์ส คาบ้าน[/size]
ลิเวอร์พูล ทำให้แฟนบอลได้ยินแก้มปริอีกครั้งเมื่อโชว์ฟอร์มสุดยอดในเกมบุกชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้พวกเขากลับขึ้นมายึดอันดับ 4 ได้อีกครั้ง
1.เกมรุกคืนความมั่นใจ
สิ่งที่สาวก "เดอะ ค็อป" อยากให้มากที่สุดในตอนนี้ก็คือการคืนฟอร์มเกมรุกที่แสนดุดันของ "หงส์แดง" และแมตช์เชือดคอไก่ สามประสาน "หิน เหล็ก ไฟ" แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขากลับมาสู่ฟอร์มที่สุดเฉียบคมอีกครั้ง
จังหวะที่ได้ประตูแรกต้องบอกเลยว่า ซาดิโอ มาเน่ ทำได้ดีเยี่ยมทั้งจังหวะการวิ่งไปเล่นบอล และการผ่านเข้ากลางประตูที่จุดเกรงใจระหว่าง เอริก ดายเออร์ กับ อูโก้ โยริส ทำให้ ฟีร์มีโน่ ได้ยิงแบบสบายๆ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกมอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ มาเน่ ยังใช้ความเร็วในการป่วนเกมรับของเจ้าบ้านได้ตลอด ที่สำคัญเขายังมีความขยัน และพยายามวิ่งหาพื้นที่เพื่อที่จะหาโอกาสในการทำประตู จนกระทั่งทำเสร็จจากจังหวะที่เปิดบอลที่เฉียบคมของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
สถิติตอนนี้ ดาวเตะแซมบ้า ซัดไปแล้ว 5
ประตูจาก 6
เกมลีกหลังสุดที่ดวล สเปอร์ส สำหรับ ซาลาห์ เห็นได้ชัดเรื่องความมั่นใจที่ค่อยๆ กลับคืนมา โดยเฉพาะในจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคม และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ แม้จะถูก "วีเออาร์" ริบไปตาม แต่จังหวะการยิงแบบนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ได้เห็น "บังโม" เชื่อมั่นในการยิงประตู
2.ปัญหาบาดเจ็บยังคุกคาม
เรื่องที่ คล็อปป์ กังวลมากที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้นั่นก็คือปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ โดยเฉพาะแนวรับที่ปัจจุบันก็ค่อนข้างพิการ เหลือเซนเตอร์แบ็กอาชีพแค่คนเดียว นั่นก็คือ โฌแอล มาติป แต่สภาพร่างกายก็เป็นพวกประเภทกองหลังกระดูกยูงพร้อมเจ็บได้ตลอดเวลา
ก่อนเกมแฟนบอล "หงส์แดง" ต้องมาเจอข่าวร้ายเมื่อ ฟาบินโญ่ มีปัญหาบาดเจ็บแม้ว่า คล็อปป์ ยืนยันกองกลางชาวบราซิเลียน เจ็บกล้ามเนื้อเล็กน้อย แต่ต้องเน้นปลอดภัยไว้ก่อนจึงเลือกดร็อปเขา และใช้งาน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยืนเซนเตอร์แบ็กร่วมกับ มาติป
ตลอดครึ่งแรก มาติป กับ "เฮนโด้" ถือว่าประสานงานกันได้ดีเยี่ยม สามารถรับมือกับ แฮร์รี่ เคน กับ ซน ฮึง-มิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในรายของแนวรับชาวแคเมอรูน ที่จัดการกับ "อาซน" จนอยู่หมัด ความเร็ว และการอ่านเกมของเขา ช่วยให้ สตาร์ชาวเกาหลีใต้ ไม่สามารถงัดทีเด็ดนั่นก็คือใช้สปีดเร็วกว่านรกได้
จะว่าไปแล้วนอกจากจังหวะที่หลุดเข้าไปยิงในช่วงต้นเกม แต่ "วีเออาร์" ระบุว่าเป็นลูกล้ำหน้า นอกนั้น ซน ฮึง-มินกับ เคน แทบจะไม่ได้แผลงฤทธิ์ให้ อลีสซง เบ็คเกอร์ กับแบ็กโฟร์ "เดอะ เร้ดส์" ต้องเจองานหนักอะไรเลย
สำหรับผลงานของ ฟิลลิปส์ ในเกมนี้ ก็ต้องบอกว่าสอบผ่าน แต่ยังไม่ดีนัก เพราะนักเตะมีปัญหาในเรื่องการเข้าบอลที่ค่อนข้างพรวดพราด และอ่านเกมยังไม่ขาด นี่หากเจอกับพวกกองหน้าฝีเท้าชัดเจน หรือพวกนักเตะพร้อมล้มในเขตโทษ งานนี้ "เดอะ เร้ดส์" ได้เสียจุดโทษแหงๆ
ฉะนั้นในเกมพบ เวสต์แฮม ยูไนต็ด ต้องลุ้นให้ ฟาบินโญ่ กับ มาติป ฟิตสมบูรณ์ แต่สำหรับรายหลังคงลุ้นหนักเลยทีเดียว เนื่องจาก คล็อปป์ ออกมาพูดว่าอาการค่อนข้าง "รุนแรง" งานนี้อาจจะได้เห็น เฮนเดอร์สัน จับคู่ ฟิลลิปส์ อีกครั้งก็ได้
3.สเปอร์ส เครียดหนัก เคน เดี้ยง
หนึ่งในเหตุผลที่ต้องบอกว่า สเปอร์ส ทำผลงานในเกมรุกได้ไม่ค่อยจัดจ้านก็มาจากการที่ แฮร์รี่ เคน มีปัญหาบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก จนกระทั่งต้องถูกถอดออกในช่วงพักครึ่ง ซึ่งแน่นอนว่านี่คือสิ่งที่สาวก "ไก่เดือยทอง" กังวลมากกว่าการที่พวกเขาแพ้ "หงส์แดง" ซะอีก
กัปตันทีมชาติอังกฤษ โดนเข้าปะทะหนักตลอดครึ่งแรก ส่งผลให้มีปัญหาบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า แม้จะพยายามฝืนเล่นต่อไป แต่เห็นได้ชัดว่า เคน ไม่สามารถเล่นได้เต็มร้อย ทำให้ผลงานของเขาในช่วง 45
นาทีแรกค่อนข้างน่าผิดหวังเลยทีเดียว
สำหรับตอนนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ คงได้แต่ภาวนา และลุ้นว่า กองหน้าตัวเก่งเลือดผู้ดี จะมีอาการบาดเจ็บไม่รุนแรง เพราะหาก เคน ต้องพักยาว โอกาสที่พวกเขาจะทำอันดับติดท็อปโฟร์ ในฤดูกาลนี้ ค่อนข้างน่าเป็นห่วงแน่นอน
ถึงแม้ว่า "เฮียมู" สามารถปั่น สเปอร์ส ให้เป็นทีมที่มีเกมรุกอันตราย และยิงประตูได้โดยไม่มี เคน ก็ตาม แต่การขาด หัวหอกวัย 27
ไปย่อมทำให้เกมบุกของพวกเขาขาดความอันตรายลงไปเยอะเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นแล้วในเกมแพ้ ลิเวอร์พูล
4."เจ้าหนูเทรนต์" กลับมาแล้ว
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตกเป็นเป้าพวกนักวิจารณ์ที่มองว่าเขาฟอร์มตกอย่างแรง และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้น่าผิดหวังนับตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส ลากยาวจนกระทั่งเกมที่โดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขี่ยตกรอบ 4
ศึกเอฟเอ คัพ
อย่างไรก็ตามนักเตะเลือกที่จะอยู่นิ่งไม่ออกมาตอบโต้พวกเก่งหลังไมค์ และโค้ชคีย์บอร์ดในโลกโซเชียล แต่หันมาตั้งหน้าตั้งตาวิเคราะห์ฟอร์มการเล่นของตัวเอง และฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อเรียกผลงานชั้นยอดกลับมาอีกครั้ง
เกมเยือน สเปอร์ส ต้องบอกเลยว่า แบ็กขวาเลือดผู้ดี เล่นได้อย่างโดดเด่นทั้งเกมรับ และเกมรุก โดยเขาช่วยให้ฝั่งขวาของทีมเหนียวแน่น ไม่เสียตำแหน่ง และมีจังหวะเคลียร์บอลได้เด็ดขาด ส่วนเกมบุกถือเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาอยู่แล้ว และเกมนี้เจ้าตัวก็มีส่วนสำคัญต่อชัยชนะของทีม
จังหวะการกระชากบอลจากริมเส้นฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดบอลที่เฉียบคมเข้าไปในเขตโทษของ สเปอร์ส และเป็น มาเน่ ที่สามารถเก็บตกจังหวะผิดพลาดของ โจ โรดอน ก่อนซัดเข้าประตูไม่เหลือซาก นอกจากนี้ "เจ้าหนูเทรนต์" ยังมีทีเด็ดในจังหวะยิงประตูด้วย
ฟอร์มของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในเกมนี้น่าจะเเป็นการตบปากพวกนักวิจารณ์และเกรียนคีย์บอร์ดได้เป็นอย่างดี
5. มองทีละเกม ค่อยๆ ย่องดั่งเสือรอตะครุบเหยื่อ
แน่นอนว่าการลุ้นแชมป์ยังไม่ใช่เป้าหมายหลักในเวลานี้ของ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขายังมีแต้มห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง 4
คะแนนแถม "เรือใบสีฟ้า" ยังแค่น้อยกว่า 1
เกม ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องจำให้ขึ้นใจก็คือการมองไปทีละเกม และทำอันดับติดท็อปโฟร์เอาไว้ก่อน
หากเช็คตารางคะแนนลีกในฤดูกาลนี้ ต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ เพราะกลุ่มทีมนำมีแต้มไม่ได้ทิ้งห่างเลย และหากทีมใดทีมหนึ่งเพลี่ยงพล้ำโอกาสที่อันดับหนึ่งในสี่จะเปลี่ยนแปลงมีค่อนข้างสูง ดูได้จาก "หงส์แดง" เป็นต้น !!
ด้วยเหตุนี้ ลิเวอร์พูล จึงยังไม่หมดหวังในการลุ้นแชมป์ เพราะยังมีเกมลีกอีกหลายแมตช์ให้ลงเล่น แต่สิ่งสำคัญก็คือพวกเขาต้องรักษาโมเมนตัมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ และรอจังหวะของตัวเอง หากทีมนำเกิดพลาดท่าสะดุดขาตัวเอง
สมัครสมาชิกคลิ๊ก
แทงบอลออนไลน์
เจาะ [size= 18.0pt; font-family: 'Tahoma',sans-serif]5 ประเด็น ลิเวอร์พูล บุกทุบ สเปอร์ส คาบ้าน[/size]